หลายท่านอาจมีอาการปวดหลังโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือมีอาการปวดหลังรุนแรงจนถึงขั้นรบกวนการนอนหลับพักผ่อนตอนกลางคืน หรือส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน และอาการปวดหลังสามารถเกิดขึ้นได้โดยทั่วไปในทุกเพศทุกวัย ซึ่งอาการปวดหลัง ในแต่ละบริเวณก็จะมีสาเหตุของการปวดที่แตกต่างกันไป
ปวดหลังตรงไหน เกิดจากอะไร?
ปวดหลังส่วนบน
อาการปวดหลังส่วนบน อาจมีสาเหตุจากการก้มเล่นมือถือเป็นเวลานานๆ หรือการแบกกระเป๋าหนักๆ หรือมีพฤติกรรมสะพายกระเป๋าหนักๆ ข้างเดียวทำให้กล้ามเนื้อทำงานหนัก เพราะจะต้องเกร็งกล้ามเนื้อต้นคอ บ่า ไหล่ เพื่อให้ศีรษะตั้งตรง จึงทำให้เกิดอาการไหล่เอียง ตัวเอียงโดยไม่รู้ตัว
ปวดหลังส่วนกลาง
อาการปวดหลังส่วนกลาง อาจเกิดจากการก้มยกของหนัก นอนเตียงที่นุ่มหรือแข็งเกินไป
ปวดหลังส่วนล่าง
อาการปวดหลังส่วนล่าง อาจมีสาเหตุมาจากน้ำหนักตัวเยอะ ยืนหรือนั่งเป็นเวลานานๆ
ปวดตามแนวกระดูกสันหลัง
อาการปวดกลางหลัง ไล่ตั้งแต่บนลงล่าง แต่เป็นบริเวณกลางหลัง อาจมีอาการผิดปกติขึ้นกับกระดูกสันหลัง หมอนรองกระดูก หรือเอ็นยึดระหว่างกระดูกสันหลัง สาเหตุมาจากการก้มๆ เงยๆ ยกของเป็นเวลานานๆ หรืออาจเกิดจากนั่งในท่านั่งเดิมเป็นเวลานาน แล้วไม่ค่อยได้เปลี่ยนอิริยาบถ
ปวดหลังช่วงบน ใกล้ไหล่ ลำคอ ท้ายทอย
อาการปวดในบริเวณนี้ เกิดจากการนั่งในท่าที่ไม่เหมาะสม หรือในสถานที่ๆ ไม่เหมาะสม เช่น โต๊ะทำงาน และเก้าอี้ทำงานไม่สัมพันธ์กับสรีระร่างกาย จึงทำให้การจัดระเบียบร่างกาย ท่านั่งในการทำงาน จึงส่งผลทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยบริเวณตั้งแต่หัวไหล่ กล้ามเนื้อช่วงหลังตอนบน ไปจนถึงไหล่ใกล้ต้นคอ
กล้ามเนื้อหลังช่วงกลาง ด้านซ้าย-ขวา
มีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุจากการออกกำลังกาย เล่นกีฬา การขยับร่างกายผิดท่าในจังหวะอันรวดเร็วจนเกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบ
ปวดหลังบริเวณเอว
อาการปวดบริเวณเอว ที่ค่อนไปทางด้านหลัง มีสาเหตุคล้ายกับอาการปวดหลังบริเวณอื่นๆ ตั้งแต่การใช้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นหนักจากการยกของหนักเป็นเวลานาน การออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬาที่ใช้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นมากๆ เช่น กอล์ฟ อุบติเหตุเล็กๆ น้อยๆ การตั้งครรภ์ รวมไปถึงสภาพจิตใจซึมเศร้าที่ส่งผลถึงต่อความตึงเครียดของกล้ามเนื้อที่ขาดการยืดหยุ่น
อาการปวดหลังแบบไหน บ่งบอกโรคอะไรได้บ้าง
ปวดหลังแบบกว้างๆ ก้มหรือแอ่นหลังไม่ได้
– โรคกล้ามเนื้อหลังอักเสบเฉียบพลัน โรคนี้ไม่ได้เกิดหรือเกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลังโดยตรง แต่เป็นที่กล้ามเนื้อหลังโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่เกิดจากการที่กล้ามเนื้อหลังถูกใช้งานมากเกินไป เกิดอุบัติเหตุโดนกระแทกที่หลัง การเล่นกีฬาอย่างหนัก จนทำให้กล้ามเนื้อหลังอักเสบอักเสบเฉียบพลันทันที โดยอาการที่พบจะปวดเกร็งหลัง ปวดตึงหลัง จนต้องแอ่นหลังตลอดเวลา รู้สึกปวดหลังแบบกว้างๆ ระบุตำแหน่งชัดเจนไม่ได้ รวมทั้งอาการยังคล้ายหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท แต่ไม่มีอาการปวดร้าวลงขา
ปวดหลังร้าวลงขา ไอ จาม หรือเบ่งจะยิ่งปวด
– โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เกิดจากเจลในหมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้นออกมาไปกดทับเส้นประสาทไขสันหลัง หรือรากประสาท ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการก้มๆ เงยๆ ยกของหนัก นั่งทำงานอยู่ในท่านั่งเดิมเป็นเวลานาน แล้วไม่ค่อยได้เปลี่ยนอิริยาบถ รวมถึงความเสื่อมตามธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นอาการออฟฟิศซินโดรม ผู้ป่วยจะมีอาการมีอาการปวดหลังรุนแรง ปวดมากจนไม่อาจขยับตัวได้ ปวดหลังร้าวลงขา ปวดขณะไอ จาม รวมไปถึงอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น อาการชา ขาอ่อนแรง มีอาการผิดปกติในการควบคุมปัสสาวะและ อุจจาระ มีปัญหาในการเดิน เช่น ทรงตัวได้ไม่ดี เดินลำบาก ขาแข็งเกร็ง เป็นต้น
ปวดหลังแบบขัดๆ ภายในข้อ ปวดลึก ปวดเสียว
- โรคกระดูกสันหลังเสื่อม มักพบบ่อยในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป โรคกระดูกสันหลังเสื่อมนั้นเป็นภาวะที่กระดูกสันหลังทรุดตัว จากข้อต่อ Facet joint ที่ทำหน้าที่เชื่อมกระดูกชิ้นบนกับชิ้นล่างที่ทำให้เกิดการเคลื่อนไหว เกิดเสื่อมลง เป็นผลให้ข้อกระดูกชิ้นบนกับชิ้นล่างอยู่ชิดกันมากเกินไป หากเป็นในระยะแรกมักไม่แสดงอาการ แต่ถ้าเมื่อใดที่ข้อต่อนั้นเสื่อมสภาพลงมากจนทำให้กระดูกสันหลังทรุดตัวลงเพิ่มมากขึ้น จะมีอาการปวดหลัง เมื่อใช้มือกดไปที่ข้อกระดูกสันหลังตรงๆ จะรู้สึกปวดลึก ปวดเสียว และรู้สึกขัดๆ ภายในข้อ สามารถชี้ระบุตำแหน่งได้ชัดเจน หลังแข็งก้มหลังได้น้อยลง บางครั้งอาจเกิดกล้ามเนื้อหลังหดเกร็งค้าง จนนำไปสู่อาการปวดหลังจากกล้ามเนื้อหลังอักเสบได้
ปวดหลังส่วนล่าง ปวดร้าวลงสะโพก ก้น ต้นขา
– โรคกระดูกสันหลังเคลื่อน เป็นภาวะที่มีการเคลื่อนของกระดูกสันหลังข้อหนึ่งไปด้านหน้ามากกว่าปกติ โดยมักพบในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป เกิดจากข้อต่อกระดูกสันหลังเสื่อม อุบัติเหตุที่มีการกระแทกต่อกระดูกสันหลังโดยตรงจนทำให้ข้อเคลื่อน ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ ผู้ที่อ้วนลงพุง ผู้ที่ทำงานต้องก้มๆ เงยๆ เป็นประจำ และอาจเกิดจากติดเชื้อที่กระดูกสันหลัง เช่น วัณโรคกระดูกหลัง เป็นต้น โดยมีอาการปวดหลังส่วนล่าง ปวดมากเมื่อยืนหรือเดิน ผู้ที่มีกระดูกสันหลังเคลื่อนมากจะมี อาการปวดร้าวลงสะโพก ก้น ต้นขา แต่ถ้ากระดูกเคลื่อนไปโดนเส้นประสาทจะมีอาการขาชา และขาอ่อนแรงร่วมด้วย
ปวดหลังเหนือบั้นเอวทั้ง 2 ข้าง
– โรคไต โรคนิ่วโรคที่เกิดจากความผิดปกติภายใน เช่น โรคไต โรคนิ่วในถุงน้ำดี นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ หรือติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ เป็นต้น จนทำให้มีอาการปวดหลังบริเวณเหนือบั้นเอวทั้ง 2 ข้าง ร่วมกับมีอาการปัสสาวะขุ่น แสบ ขัด มีไข้ นอกจากนี้โรคกระเพาะ ลำไส้ มดลูก ปีกมดลูก รังไข่ ก็ส่งให้เกิดอาการปวดหลังบริเวณนี้เช่นกัน แต่โรคเหล่านี้มักจะมีอาการปวดท้องควบคู่กันด้วย
หมั่นสังเกตุอาการ หากมีอาการปวดหลังอย่าปล่อยให้เรื้อรัง หากรู้สาเหตุและอาการไม่รุนแรง สามารถทายาบรรเทาอาการปวด นวดคลายเส้น ใช้การประคบอุ่นเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
หรือใช้เครื่องนวดหลังที่มีระบบการนวดที่แม่นยำ โดยผสานการนวดแบบชิอัตสึ (Shiatsu massage)ซึ่งเป็นการนวดตามแบบโบราณของญี่ปุ่น ที่ได้รับการยอมรับในวงการแพทย์ทางเลือกอย่างกว้างขวาง
เป็นการนวดคล้ายการนวดแบบกดจุด ช่วยในการปรับปรุงการไหลเวียนของพลังชีวิตในร่างกาย กระตุ้นพลังงานของร่างกาย ให้สามารถบรรเทา ฟื้นฟู และเยียวยาตัวเองได้
เป็นระบบการนวดตัวเองที่กำเนิดมาจากประเทศจีน และได้รับการพัฒนาโดยประเทศญี่ปุ่น นำมาผสานเข้ากับการประคบอุ่นอุณหภูมิคงที่
ซึ่งการประคบอุ่นอย่างต่อเนื่องจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและกระตุ้นไหลเวียนโลหิตได้ดียิ่งขึ้น แต่หากไม่ทราบสาเหตุของอาการปวดหลัง และยังมีอาการปวดหลังอย่างต่อเนื่องมากกว่า 6 สัปดาห์
ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจโดยละเอียด เพื่อสาเหตุที่แท้จริง
ขอบคุณข้อมูลจาก
รพ.นครธน
>>เครื่องนวดหลัง breo รุ่น iBack2<<









