เปิดสาเหตุและวิธีแก้ปวดตา ปัญหาที่ไม่ควรปล่อยไว้

ปฏิเสธไม่ได้ว่า หลายคนต้องอยู่กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่าง คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรือแท็บเล็ต เป็นประจำทุกวัน ซึ่งบางครั้งอาจใช้งานอย่างไม่เหมาะสมด้วยความเคยชิน นำมาสู่ปัญหาสุขภาพตาอย่าง ปวดตา ตาเมื่อยล้า หรือตาแห้งได้ แล้วอาการเหล่านี้อันตรายไหม? มีวิธีแก้ปวดตาอย่างไรได้บ้าง? สรุปมาให้แล้วในบทความนี้

ปวดตา ตาเมื่อยล้า มีอาการอย่างไร?

ก่อนไปดูวิธีแก้ปวดตา ลองมาสังเกตตัวเองกันว่า มีอาการตามลิสต์ด้านล่างหรือไม่?

• มีอาการปวดเบ้าตา หรือบริเวณรอบ ๆ ดวงตา
• ตาล้า ตามัวเฉียบพลัน ไม่โฟกัส 
• ระคายเคืองตา คันตา หรือแสบตา
• ตาไวต่อแสงมากขึ้น
• ตาแห้ง มีน้ำตาไหลโดยไม่มีสาเหตุ 
• บางรายอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น เหนื่อยล้า ปวดหัว อยากอาเจียน และบ้านหมุน เป็นต้น

ปวดตา ตาเมื่อยล้า เกิดจากอะไร?

อาการปวดตา ตาเมื่อยล้า ส่วนใหญ่มักเกิดจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน มาดูกันว่า คุณกำลังมีพฤติกรรมเหล่านี้อยู่หรือเปล่า?

• จ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์เป็นเวลานาน
• ใช้สายตาในที่มืด หรือแสงน้อย
• จ้องโทรศัพท์ในที่ที่มีแสงจ้า
• ขับรถทางไกลบ่อย ๆ 
• มีความเครียด วิตกกังวล
• สาเหตุอื่น ๆ เช่น ไมเกรน หรือโรคตาต่าง ๆ เช่น ต้อหิน ม่านตาอักเสบ เป็นต้น

6 วิธีแก้ปวดตา ตาล้า บรรเทาอาการให้อยู่หมัด

รวม 6 วิธีแก้ปวดตา ตาล้า เบื้องต้น เพื่อช่วยบรรเทาอาการให้ดีขึ้น ดังนี้

1. พักสายตา

วิธีแก้ปวดตาข้อแรก ต้องพักจากการใช้สายตาอย่างหนักเป็นเวลาหลายชั่วโมง แนะนำให้พักสายตาด้วยการมองออกไปไกล ๆ หรือละสายตาไปมองวัตถุอื่น ๆ ประมาณ 10-20 วินาที ทุก 20 นาที หรืออาจหลับตาเป็นบางช่วง จะช่วยถนอมสายตาและลดอาการตาล้าได้ รวมทั้งเป็นการพักสมองอีกด้วย

2. บริหารกล้ามเนื้อรอบดวงตา

วิธีแก้ปวดตาต่อมา คือ การบริหารกล้ามเนื้อรอบดวงตาง่าย ๆ เพียง หน้าตั้ง คอตรง แล้วทำตามนี้

• กลอกตาเป็นวงกลมช้า ๆ โดยวนซ้าย 10 ครั้ง แล้วเปลี่ยนเป็นวนขวาอีก 10 ครั้ง
• กลอกตาขึ้นให้สุดและลงให้สุด ทำซ้ำ 10 ครั้ง
• กลอกตาไปทางซ้ายให้สุดและขวาให้สุด ทำซ้ำ 10 ครั้ง
• ถูฝ่ามือทั้งสองข้างให้รู้สึกอุ่น หลับตา แล้วใช้มือประกบดวงตาทั้ง 2 ข้าง ทิ้งไว้สักครู่

3. ประคบตา

อาการปวดตา ตาล้า แนะนำให้ประคบตาแบบร้อนเย็นสลับกัน โดยประคบเย็นก่อนเพื่อลดอาการปวด จากนั้นประคบร้อน เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อดวงตา ลดของเสียที่คั่งค้างในกล้ามเนื้อ และกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น แต่หากมีอาการตาแห้งเพียงอย่างเดียว แนะนำให้ประคบร้อน จะช่วยละลายไขมันที่อุดตันบริเวณเปลือกตา ทำให้คุณภาพของน้ำตาดีขึ้น

4. ใช้น้ำตาเทียม

วิธีแก้ปวดตาอีกข้อที่อยากแนะนำ คือ การหยอดน้ำตาเทียม จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตา บรรเทาอาการตาแห้งและระคายเคืองดวงตา เหมาะมากสำหรับชาวออฟฟิศที่ต้องทำงานกับหน้าจอคอมพิวเตอร์หลายชั่วโมง 

5. กะพริบตาให้บ่อยขึ้น

บางครั้งอาจจ้องหน้าจอเป็นเวลานานจนลืมกะพริบตา ทำให้ปวดตาและตาแห้งได้ ดังนั้นการกะพริบตาบ่อย ๆ จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตา ทำให้มีน้ำตาเคลือบตาตลอดเวลา ส่งให้ดวงตาโฟกัสการมองเห็นได้ดีขึ้น และบรรเทาอาการตาแห้ง ตาพร่ามัวได้

6. นวดตาด้วยเครื่องนวด

การใช้เครื่องนวดตานวดรอบดวงตาเป็นอีกวิธีแก้ปวดตา ตาล้า ที่อยากแนะนำ โดยเครื่องนวดตาสามารถปรับความแรงการนวดได้ แถมยังมีระบบประคบอุ่นเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดรอบดวงตาอีกด้วย นอกจากนี้ เครื่องนวดตายังเพิ่มความเจ๋งด้วยฟีเจอร์เปิดเพลงระหว่างการนวดได้ อย่างเครื่องนวดตา Breo รุ่น iSeeM ที่สามารถเลือกเพลงโปรดจากโทรศัพท์ของคุณเอง ทำให้การนวดเพลิดเพลินกว่าที่เคย

ป้องกันอย่างไร? ไม่ให้มีอาการปวดตา ตาล้า 

ใครที่ยังไม่มีอาการปวดตา หรือนาน ๆ ทีเป็นครั้ง สามารถทำตามวิธีเหล่านี้เพื่อป้องกันอาการปวดตา ตาล้า ในอนาคต

• จัดห้องให้มีแสงสว่างเพียงพอและสอดคล้องกับแสงสว่างจากหน้าจอ
• ใช้แว่นกรองแสงสีฟ้าเพื่อถนอมสายตา
• ปรับแสงหน้าจอให้เหมาะสม เพราะแสงจ้าเกินไปทำให้เกิดอาการปวดตาได้
• จัดตำแหน่งการนั่งและคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในระดับเหมาะสม โดยให้สายตาอยู่ห่างจากหน้าจอประมาณ 20-26 นิ้ว 
• เข้ารับการตรวจสุภาพตาเป็นประจำ หากมีอาการผิดปกติจะได้รักษาเนิ่น ๆ 
• รับประทานอาหารและผลไม้ที่ช่วยบำรุงสายตา เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผักใบเขียว ไข่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า เป็นต้น

ปวดตา ตาล้า ปล่อยทิ้งไว้ อันตรายกว่าที่คิด !

อาการปวดตา ตาล้า รบกวนการดำเนินการใช้ชีวิตประจำวัน และบางครั้งอาจร้ายแรงจนเกิดอุบัติเหตุได้ เช่น ปวดตา ตาพร่ามัวระหว่างลงบันได ตาล้าขณะขับขี่รถยนต์ เป็นต้น นอกจากนี้ หากใครเป็นบ่อย ๆ และลองทำตามวิธีแก้ปวดตาข้างต้นแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ แนะนำให้พบจักษุแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุ และวางแผนการรักษาต่อไป เพราะบางครั้งอาการปวดตา อาจเกิดจากโรคทางดวงตาได้

ใครมีปวดตา ตาล้า บ่อย ๆ สามารถทำตามวิธีแก้ปวดตาข้างต้นที่เราแนะนำได้ นอกจากนี้แนะนำให้เข้ารับการตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ หากเจอความผิดปกติจะทำให้สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที และสำหรับใครที่อยากมีตัวช่วยนวดตาดี ๆ อย่างเครื่องนวดเอาไว้ติดบ้าน สามารถเข้ามาชมสินค้าได้ที่เว็บไซต์ Breothailand หรือแวะไปทดลองสินค้ากับผู้เชี่ยวชาญได้ที่ ศูนย์บริการ breo ได้เลย