บอกลาปัญหาใต้ตาดำ หมีแพนด้า ด้วย 6 วิธีนี้!

ปัญหาใต้ตาดำเป็นความกังวลของคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในยุคที่ต้องทำงานหนัก พักผ่อนน้อย ซึ่งขอบตาดำไม่เพียงส่งผลต่อความมั่นใจ แต่ยังทำให้ดูอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น แม้จะพักผ่อนเต็มที่แล้วก็ตาม วันนี้เรามีวิธีแก้ไขปัญหาใต้ตาดำที่คุณสามารถทำได้เองที่บ้านมาฝากกัน

สาเหตุที่ทำให้ใต้ตาดำ

หลายคนคิดว่าปัญหาใต้ตาดำเกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอเพียงอย่างเดียว แต่จริง ๆ แล้วมีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดรอยคล้ำใต้ดวงตา การทำความเข้าใจสาเหตุจะช่วยให้เราเลือกวิธีแก้ไขได้ตรงจุดมากขึ้น

• พันธุกรรม โดยมีเบ้าตาลึก ทำให้เมื่อแสงตกกระทบจะเป็นเงามืด ใต้ตาดูดำคล้ำอย่างเห็นได้ชัด
• พฤติกรรมการนอนที่ไม่เหมาะสม นอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้บริเวณรอบดวงตาบางลง
• ใต้ตาดำจากความเครียด ทำให้ร่างกายกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานินเพิ่มมากขึ้น
• เป็นโรคภูมิแพ้ ซึ่งจะมีอาการคันบริเวณรอบดวงตา และเมื่อขยี้ตาจะทำให้หลอดเลือดดำบริเวณใต้ตาแตกตัวออก ส่งผลให้มีสีที่เข้มขึ้น
• อายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผิวบางลงและสูญเสียคอลลาเจน ทำให้เห็นสีของหลอดเลือดและกล้ามเนื้อบริเวณใต้ตาชัดมากขึ้น

6 วิธีแก้ขอบตาดำใต้ตาดำ

สำหรับคนที่กำลังมองหาวิธีแก้ขอบตาดำใต้ตาดำ เรามีวิธีที่ปลอดภัยและได้ผลดีมาแนะนำ

1. นวดใต้ตา เพิ่มการไหลเวียนเลือด

การนวดบริเวณใต้ตาอย่างถูกวิธีเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณรอบดวงตา ช่วยลดการคั่งของเลือดที่เป็นสาเหตุของรอยคล้ำใต้ตา โดยใช้นิ้วชี้กดเบา ๆ บริเวณใต้ตาจากซ้ายไปขวา ทำซ้ำไปมา 10 ครั้ง วันละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 1-2 นาที อย่าลืมทาครีมบำรุงก่อนนวดเพื่อลดการเสียดสีของผิว การนวดอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ใต้ตาดำจางลงได้อย่างเห็นผล

2. ประคบตาด้วยถุงชา

การประคบตาด้วยถุงชาทำได้ง่าย ๆ โดยนำถุงชาดำ หรือชาเขียวมาชงในน้ำร้อน จากนั้นทิ้งไว้ให้เย็นลง หรือนำไปแช่ตู้เย็นเพื่อให้หายร้อน แล้วนำถุงชามาวางไว้บนเปลือกตา 10-15 นาที ทำเป็นประจำทุกเช้าหรือก่อนนอน จะช่วยให้ผิวรอบดวงตาสดใสขึ้น เพราะคาเฟอีนในชาจะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น และลดอาการอักเสบที่ทำให้เกิดรอยคล้ำบริเวณใต้ตา

3. ทาครีมบำรุงใต้ตา

การเลือกใช้ครีมบำรุงใต้ตาที่มีส่วนผสมของ Whitening ช่วยให้รอยดำคล้ำใต้ตาจางลงได้ แต่เนื่องจากผิวบริเวณนี้บอบบางและแพ้ง่าย จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ระวังอย่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานเพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและทำให้ปัญหาใต้ตาดำรุนแรงขึ้นได้

4. แต่งหน้าปกปิดแบบเร่งด่วน

หากต้องการแก้ปัญหาใต้ตาดำแบบเร่งด่วน แนะนำให้ใช้คอนซีลเลอร์สีส้มหรือสีพีชเพื่อกลบความคล้ำ ตามด้วยคอนซีลเลอร์สีที่ตรงกับสีผิว ใช้เทคนิคการแตะเบา ๆ ไม่ควรลากหรือถู เพื่อป้องกันการระคายเคืองผิวบริเวณใต้ตาที่บอบบาง และควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติบำรุงผิว ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน

5. นอนให้เพียงพอ และเป็นเวลา

การพักผ่อนที่เพียงพอเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาใต้ตาดำอย่างยั่งยืน ควรนอนให้ได้ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน และรักษาเวลาเข้านอนให้สม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเอง หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอน และจัดห้องนอนให้มืดสนิทเพื่อการนอนหลับที่มีคุณภาพ

6. รักษาด้วยวิธีทางการแพทย์

สำหรับผู้ที่มีปัญหาใต้ตาดำรุนแรงหรือดื้อต่อการรักษาด้วยตัวเอง การรักษาทางการแพทย์อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม ปัจจุบันมีหลายวิธี เช่น การฉีดฟิลเลอร์เพื่อเพิ่มปริมาตรใต้ตา การรักษาด้วยคลื่นวิทยุ RF หรือการทำ PRP (Platelet-Rich Plasma) ที่ใช้เกล็ดเลือดของตัวเองในการฟื้นฟูผิว แต่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาของแต่ละบุคคล

สรุปบทความ

การแก้ปัญหาใต้ตาดำต้องอาศัยการดูแลอย่างต่อเนื่อง ทั้งการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต การบำรุงดูแลอย่างถูกวิธี และการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม การเปลี่ยนแปลงอาจไม่เกิดขึ้นในทันที แต่ถ้าทำอย่างสม่ำเสมอจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนแน่นอน

สำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงรอบดวงตา เราขอแนะนำ breo รุ่น See K Proที่นวดตาอัจฉริยะที่มาพร้อมเทคโนโลยีนวดความถี่สูง 12 จุดสัมผัส ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดรอบดวงตา พร้อมระบบประคบร้อน-เย็นที่ปรับอุณหภูมิได้ตามต้องการ การประคบร้อนที่ 36.5-38 องศาเซลเซียส ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ขณะที่ระบบประคบเย็นอยู่ที่ 8-10 องศาเซลเซียส ช่วยลดการบวมและกระชับผิว ทำให้ครีมบำรุงซึมซาบได้ดียิ่งขึ้น เรียกได้ว่า ใช้เครื่องเดียวแต่ตอบโจทย์ทั้งการนวด การประคบร้อน และยังช่วยให้ครีมบำรุงดูดซึมเข้าสู่ผิวอย่างมีประสิทธิภาพ