“ตาล้า ตาเพลีย” หลายคนคงคุ้นเคยกับอาการเหล่านี้ดี โดยเฉพาะช่วงที่ต้องทำงานหน้าจอทั้งวัน ประชุมออนไลน์ทั้งวัน หรือดูซีรีส์มาราธอนยาวข้ามคืน อาการตาล้าไม่ใช่แค่ความรู้สึกไม่สบายตาธรรมดา แต่เป็นสัญญาณเตือนว่าดวงตาของคุณกำลังต้องการพักผ่อน หากปล่อยไว้นานเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็นและคุณภาพชีวิตในระยะยาว มาทำความเข้าใจสาเหตุของอาการตาล้า ตาเพลีย และวิธีแก้อาการตาล้าอย่างถูกต้องกัน
อาการตาล้าเกิดจากหลายสาเหตุ การทำความเข้าใจถึงต้นเหตุจะช่วยให้เราป้องกันและแก้ไขได้ตรงจุด
ตาล้า อาการเป็นอย่างไร?
เมื่อเริ่มมีอาการตาล้า ควรรีบดูแลและบรรเทาอาการก่อนที่จะลุกลามรุนแรง ด้วยวิธีแก้อาการตาล้าต่อไปนี้
ใช้กฎ 20-20-20 คือทุก 20 นาทีที่ใช้สายตาจ้องหน้าจอ ให้พักสายตามองไกลออกไป 20 ฟุต นาน 20 วินาที เพื่อให้กล้ามเนื้อตาได้ผ่อนคลาย หรือหลับตาพักเป็นระยะ พร้อมนวดเบา ๆ รอบดวงตา
น้ำตาเทียมช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา บรรเทาอาการแห้ง แสบ คัน ควรเลือกน้ำตาเทียมที่ไม่มีสารกันบูด และหยดตามคำแนะนำบนฉลาก โดยทั่วไปแนะนำให้หยดทุก 2-3 ชั่วโมงเมื่อมีอาการ
การประคบตาเย็นเป็นวิธีแก้ปวดตาที่ได้รับความนิยม ช่วยลดอาการอักเสบและบวมรอบดวงตา ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเย็นหรือถุงประคบเย็นวางบนเปลือกตาที่ปิดอยู่ ประคบครั้งละ 10-15 นาที จะช่วยให้รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายมากขึ้น
การนวดบริเวณรอบดวงตาด้วยเครื่องนวดตาที่ได้มาตรฐานช่วยบรรเทาอาการตาล้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันมีนวัตกรรมเครื่องนวดตาที่ทันสมัยให้เลือกหลากหลาย
อย่างเช่น เครื่องนวดตา breo รุ่น See K Pro จาก breo นำเสนอประสบการณ์การนวดตาระดับพรีเมียม ด้วยระบบนวดอัจฉริยะที่มีจุดสัมผัสถึง 12 จุด ผสานการทำงานของระบบประคบอุ่น และระบบประคบเย็นครบจบในเครื่องเดียว พร้อมโหมดการนวด 5 แบบที่ปรับให้เข้ากับความต้องการของคุณ
เครื่องนวดไฟฟ้าแบบพกพา breo รุ่น iSeeM เป็นอีกตัวเลือกที่อยากแนะนำ ด้วยดีไซน์กะทัดรัด พกพาสะดวก ควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชัน ปรับแต่งการนวดได้ทั้งความแรงและอุณหภูมิ เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งที่บ้านและที่ทำงาน
แต่ถ้าใครชื่นชอบการมาร์กตา ขอแนะนำ breo iMask มาร์กตาอัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยี Graphene สร้างความอุ่นนุ่มในเวลาเพียง 3-5 วินาที ผลิตจากผ้าไหมคุณภาพสูง สวมใส่สบาย ซักทำความสะอาดได้ เหมาะสำหรับการพักผ่อนก่อนนอนหรือระหว่างวัน
หากอาการตาล้าไม่ดีขึ้นหลังจากลองดูแลตัวเองแล้ว หรือมีอาการรุนแรงขึ้น ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด เนื่องจากบางครั้งอาการตาล้าอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสายตาที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างถูกวิธี
อาการตาล้าเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในยุคที่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีในการทำกิจกรรมต่าง ๆ แต่สามารถป้องกันและบรรเทาได้ด้วยการดูแลอย่างถูกวิธี ทั้งการพักสายตาเป็นระยะ การใช้น้ำตาเทียม การประคบเย็น และการใช้อุปกรณ์ช่วยนวดตา การดูแลสุขภาพตาอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เราใช้สายตาได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น