วิธีรักษานิ้วล็อคด้วยตัวเอง ง่ายนิดเดียว

อาการนิ้วล็อคทำให้การใช้ชีวิตประจำวันเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะนิ้วจะงอติดขัด เหยียดไม่ออก และเกิดความเจ็บปวด ทำให้หลายคนสงสัยว่า นิ้วล็อคเกิดจากอะไร และมีวิธีแก้นิ้วล็อคอย่างไร บทความนี้จะพาคุณไปไขข้อข้องใจ พร้อมทั้งแนะนำวิธีรักษานิ้วล็อคด้วยตัวเองเบื้องต้นที่สามารถทำได้ที่บ้าน เพื่อบรรเทาอาการนิ้วล็อคและกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติอีกครั้ง

นิ้วล็อคคืออะไร

นิ้วล็อคเป็นภาวะที่เกิดจากการอักเสบของเยื่อหุ้มเส้นเอ็นงอนิ้วที่บริเวณฝ่ามือตรงตำแหน่งโคนนิ้ว ทำให้เอ็นและกล้ามเนื้อที่อยู่ภายในไม่สามารถยืดหดได้ตามปกติ ส่งผลให้การเหยียดและงอนิ้วทำได้ลำบาก บางครั้งอาจมีอาการเจ็บร่วมด้วย มักเกิดขึ้นกับนิ้วโป้ง นิ้วกลาง หรือนิ้วนาง และอาจเกิดขึ้นกับนิ้วมือทั้ง 2 ข้างได้ในเวลาเดียวกัน

อาการของโรคนิ้วล็อค

• เกิดอาการนิ้วแข็ง โดยเฉพาะในตอนเช้า
• มีอาการติดขัดเมื่อพยายามงอหรือเหยียดนิ้ว บางครั้งต้องใช้มืออีกข้างช่วยดึงนิ้วให้เหยียดตรง
• อาจได้ยินเสียงดังกึกเมื่อเคลื่อนไหวนิ้ว
• บางรายอาจมีอาการปวดบวมบริเวณโคนนิ้วและรู้สึกกดเจ็บ

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดนิ้วล็อค

• การใช้งานมือซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน เช่น การพิมพ์คอมพิวเตอร์ การเล่นสมาร์ตโฟน การจับเมาส์ หรือการซักผ้าด้วยมือ เป็นต้น
• ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคไต โรคเก๊าท์ หรือโรครูมาตอยด์ เป็นต้น

5 วิธีแก้นิ้วล็อคด้วยตัวเองที่ได้ผลจริง

วิธีรักษานิ้วล็อคด้วยตัวเองสามารถทำได้ หากอาการนิ้วล็อคอยู่ในระยะเริ่มต้น ยังไม่รุนแรง โดยเรารวมมาให้ทั้งหมด 5 วิธี ดังนี้

1. การบริหารนิ้วมือด้วยท่าง่าย ๆ

การบริหารนิ้วมือสามารถทำได้บ่อยครั้งระหว่างวัน โดยเริ่มจากการกำมือเบา ๆ แล้วค่อย ๆ แบมือออก ทำซ้ำประมาณ 10 ครั้งต่อเซต อีกท่าที่แนะนำ คือ ท่าขยำบอล เริ่มด้วยการกำบอลให้แน่นที่สุด นับ 1 ถึง 3 แล้วปล่อยทำวนไป 15 ครั้ง การบริหารอย่างสม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ ลดการติดขัดเวลาเคลื่อนไหว และช่วยป้องกันไม่ให้อาการนิ้วล็อครุนแรงขึ้น

2. การประคบร้อน-เย็นสลับกัน

การประคบสลับร้อน-เย็นช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดได้ดี โดยใน 1-2 วันแรก ให้ประคบเย็นครั้งละประมาณ 10-15 นาทีเพื่อลดการอักเสบและอาการบวมก่อน หลังจากนั้นให้แช่มือในน้ำอุ่นหรือประคบร้อนครั้งละ 10-15 นาที อย่างน้อย 2-3 รอบต่อวัน จะช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้นและคลายกล้ามเนื้อ

3. การนวดและยืดกล้ามเนื้อมือ

วิธีแก้นิ้วล็อคอีกวิธี คือการนวดและยืดกล้ามเนื้อมือ โดยใช้นิ้วโป้งกดนวดเบา ๆ บริเวณฝ่ามือและโคนนิ้วที่มีอาการ จากนั้นนวดคลึงเบา ๆ บริเวณข้อนิ้วมือที่มีอาการเพื่อคลายกล้ามเนื้อและเพิ่มการเคลื่อนไหวของข้อต่อ การนวดต้องทำอย่างนุ่มนวล เบามือ หลีกเลี่ยงการบีบหรือดึงนิ้วแรงเกินไป

อยากป้องกันนิ้วล็อค ลดอาการปวดเมื่อยอย่างตรงจุด ขอแนะนำเครื่องนวด Breo รุ่น WOWO S เครื่องนวดมือดีไซน์สวยที่มีระบบนวดอัจฉริยะ 5 โหมด และโหมด DIY เลือกนวดจุดที่ต้องการ สามารถนวดกดจุดสะท้อน ฟื้นบำรุงได้ครอบคลุมทั้งนิ้วมือ ฝ่ามือ และหลังมือ ช่วยบรรเทาอาการนิ้วล็อค ปวดมือ ปวดนิ้วมือ และปวดข้อมือได้อย่างตรงจุด ใครต้องใช้มือนาน ๆ และอยากป้องกันนิ้วล็อคต้องมีไว้ติดบ้าน

4. ใส่อุปกรณ์สำหรับดามนิ้ว

อุปกรณ์สำหรับดามนิ้ว (Splinting) จะช่วยจำกัดการเคลื่อนไหวของนิ้วที่มีปัญหา โดยดามนิ้วให้ตรง ไม่ให้นิ้วอยู่ในท่างอหรือเหยียดเป็นเวลานานเกินไป โดยแพทย์จะให้ใส่อุปกรณ์ดามนิ้วไว้ตลอดคืน เพื่อป้องกันไม่ให้นิ้วเกร็งหรืองอเข้าไปเองขณะนอนหลับ

5. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้มือในชีวิตประจำวัน เป็นวิธีแก้นิ้วล็อคที่ควรทำควบคู่ไปกับวิธีการรักษาอื่น ๆ โดยหลีกเลี่ยงการใช้นิ้วมือทำงานซ้ำ ๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน พักการใช้งานมือเป็นระยะ และปรับท่าทางการจับอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เหมาะสม เช่น การจับเมาส์หรือปากกาไม่แน่นจนเกินไป การวางมือบนคีย์บอร์ดในตำแหน่งที่ถูกต้อง และการใช้อุปกรณ์เสริมที่ช่วยลดการกดทับบริเวณข้อมือและนิ้ว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำของอาการนิ้วล็อคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สรุปบทความ