ประเภทของการนวดสำคัญอย่างไร?
การนวดเป็นวิธีบำบัดและผ่อนคลายที่ได้รับความนิยมอย่างสูง สาเหตุที่ผู้คนนิยมในการนวดเพราะช่วยแก้อาการปวดบริเวณตามจุดต่างๆ ช่วยบำบัดและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ รวมถึงช่วยเรื่องผ่อนคลายความเครียดได้อีกด้วย
การนวดในแต่ละประเภทนั้นมีเทคนิครูปแบบการนวดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ต่างกัน ในปัจจุบันมีรูปแบบการนวดใหม่ๆ เกิดขึ้นหลายประเภท เพื่อตอบสนองสไตล์การนวดของแต่ละบุคคลที่ชื่นชอบต่างกันไป
สำหรับผู้ที่ไม่เคยรับบริการนวดมาก่อน การเข้ารับบริการที่สปาหรือร้านนวดอาจเป็นเรื่องยากพอสมควร และอาจจะต้องใช้เวลาในการตัดสินใจ ดังนั้น ก่อนรับบริการนวดใดๆ เราควรศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการนวดประเภทต่างๆเพื่อให้ได้รับการบริการที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด
การนวดมีกี่ประเภท แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไรบ้าง?
การนวดนักกีฬา : เป็นการนวดที่เน้นการลงน้ำหนักมากขึ้น โดยผสมผสานเทคนิคต่างๆ เพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกายหรือแก้ไขปัญหาทางกายภาพเฉพาะของบุคคลที่เคลื่อนไหวร่างกายมาก การนวดนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เป็นนักกีฬาหรือผู้ที่เน้นเฉพาะกลุ่มกล้ามเนื้อ
การนวดดีพทิชชู่ (Deep Tissue Massage) : โดยการใช้แรงกดที่หนักแน่นและจังหวะที่ช้ามากเพื่อเข้าไปถึงกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อส่วนลึก เป็นรูปแบบหนึ่งของการบำบัด ที่ใช้รักษาปัญหาต่างๆ มากมาย เช่น ความดันโลหิตสูง อาการปวดหลังส่วนล่าง การนวดรูปแบบนี้ประกอบด้วยเทคนิคต่างๆ เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ สลายพังผืด และเอ็นที่ตึง เหมาะสำหรับหลังการออกกำลังกายหรือผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง
การนวดแบบสวีดิชหรือนวดผ่อนคลาย : ถือเป็นรูปแบบการนวดที่พบเห็นได้ทั่วไปทางตะวันตก การนวดแบบสวีดิชหรือ “นวดผ่อนคลาย” เป็นการกดหรือคลึงกล้ามเนื้อด้วยแรงกดของนิ้วมือตามจุดต่างๆบริเวณที่ตึง เพื่อลดอาการปวดเมื่อย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต หากคุณต้องการผ่อนคลายและกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต การนวดสวีดิชถือเป็นตัวเลือกที่ดีเพราะไม่ได้เน้นการฟื้นฟูกล้ามเนื้อมากนัก แต่เหมาะสำหรับการผ่อนคลาย
การนวดตัวด้วยหินร้อน : การนวดด้วยหินร้อนเหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อ และต้องการผ่อนคลาย การนวดบำบัดนี้คล้ายกับการนวดแบบสวีดิช ยกเว้นว่านักนวดบำบัดจะใช้หินร้อนแทนการนวดด้วยมือ สามารถคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ เพิ่มการไหลเวียนของเลือด และบรรเทาอาการปวดโดยใช้หินร้อน
การนวดอโรม่า : การนวดอโรม่าเหมาะที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มส่วนผสมในการบำบัดอารมณ์ในการนวด การนวดอโรม่าผสมผสานการนวดเบาๆ กับการใช้น้ำมันหอมระเหยรวมกัน นักนวดบำบัดมักจะตัดสินใจว่าจะใช้น้ำมันหอมระเหยชนิดใดเพื่อให้เหมาะกับอารมณ์หรืออาการของเรา อย่างเช่น
- น้ำมันลาเวนเดอร์ ช่วยให้นอนหลับง่าย บำบัดความเครียด ลดอาการคัดจมูก และช่วยบำรุงผิว
- น้ำมันคาโมมายล์ ช่วยบรรเทาความเครียด ปรับอารมณ์ให้รู้สึกสงบและผ่อนคลาย และช่วยลดอาการปวดหัวจากความเครียด หรือมีอาการไมเกรน
- น้ำมันซิตรัส กลิ่นแนวสดชื่น สไตล์ผลไม้เมืองร้อน ช่วยให้หายใจสะดวก ปรับอารมณ์ให้แจ่มใส รู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น และช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่งมากขึ้น
การนวดแบบชิอัตสึ : การนวดโดยใช้หัวแม่มือ นิ้ว และฝ่ามือ เป็นศาสตร์การนวดโบราณจากประเทศญี่ปุ่นที่มีรากฐานมาจากแพทย์แผนจีน มุ่งเน้นการปรับสมดุลร่างกายในส่วนที่สำคัญเพื่อบำบัดอาการเจ็บหรือตึงตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยมุ่งเน้นไปที่การใช้ปลายนิ้วกดสร้างแรงดันตามตำแหน่งต่างๆ เพื่อบรรเทาอาการตึงและปวดกล้ามเนื้อ ช่วยให้การไหลเวียนดีขึ้น
การนวดแผนไทย : การนวดแผนไทยเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการนวดที่กระฉับกระเฉง และต้องการบรรเทาความเจ็บปวด ตึงเครียด เน้นการนวดในลักษณะการกด คลึง บีบ และการดัดตัวเพื่อฟื้นฟูกล้ามเนื้อ เพิ่มความยืดหยุ่น การไหลเวียนพลังงาน การนวดแผนไทยได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เป็นหนึ่งการแพทย์แผนโบราณของไทยที่มีมาอย่างยาวนาน
การบำบัดจุดกดเจ็บ : จุดกดเจ็บคือบริเวณที่ “จุดปวดกล้ามเนื้อที่เกิดการหดเกร็งจนเป็นก้อน” ซึ่งอาจเจ็บได้เมื่อถูกกด การนวดประเภทนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อบรรเทาจุดกดเจ็บโดยการกด “ปมบนกล้ามเนื้อ” เฉพาะบนร่างกายครั้งละประมาณ 30–90 วินาที “การนวดประเภทนี้จะมุ่งเป้าไปที่จุดที่ตึงมากซึ่งอาจทำให้คุณรู้สึกเจ็บมากกว่าบริเวณอื่น”
วิธีนี้มีประสิทธิภาพอย่างยิ่งเมื่อบำบัดหลังการออกกำลังกาย
การนวดโดยใช้อุปกรณ์ : นี่เป็นวิธีหนึ่งและได้ผลดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณใช้เครื่องมือ เช่น โฟมโรลเลอร์หรือลูกบอลนวด การคลึงบริเวณที่ตึงหรือออกแรงกดจะช่วยคลายความตึงเครียดและทำให้คุณยืดหยุ่นได้ หรือการใช้ปืนนวด เป็นอุปกรณ์และตัวช่วยที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะสะดวกสบายและช่วยคลายกล้ามเนื้อได้อย่างล้ำลึก คุณสามารถใช้ปืนนวด นวดเพื่อบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายและยืดหยุ่นขึ้น ลดระยะเวลาการฟื้นตัวหลังออกกำลังกาย ช่วยแก้อาการปวดหลังคอ บ่าไหล่ จากการทำงาน
ปืนนวดกล้ามเนื้อมีหลายขนาดและรูปแบบให้เลือก โดยทั่วไปแล้วจะมีหัวนวดหลายแบบ ซึ่งออกแบบมาสำหรับส่วนต่างๆ ที่แตกต่างกันทั่วร่างกาย
breo รุ่น massagun S1
ปืนนวดสำหรับพกพา ขนาดกระทัดรัด พกพาสะดวก เหมาะสำหรับผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หรือผู้ที่มีมวลกล้ามเนื้อน้อย ตัวเครื่องออกแบบเป็นรูปตัว T ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ โค้งมนพอดีกับฝ่ามือเพื่อให้จับกระชับมือ ใช้งานง่าย ปรับความเร็วได้ถึง 4 ระดับ เปลี่ยนหัวนวดเพื่อประสิทธิภาพในการนวดจุดต่างๆ ได้ถึง 4 หัวนวด
breo รุ่น massagun7
ปืนนวดประคบอุ่น ผ่อนคลายทุกจุดเมื่อย เหมาะสำหรับผู้มีอาการปวดเมื่อย จากการทำงานและออกกำลังกาย ดีไซน์เลข 7 ให้คุณลงน้ำหนักในการนวดได้สะดวกยิ่งขึ้น ขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบาเพียง ใช้พลังจากมอเตอร์ไร้แปรงถ่าน ปลอดภัย นวดเข้าลึกถึงกล้ามเนื้อชั้นในถึง 10 มม. ปรับความเร็วได้ถึง 3 ระดับ และมาพร้อมนวัตกรรม Hot-VIB SYNC thermal shock press สามารถให้ความร้อนอย่างรวดเร็ว อุณหภูมิคงที่ 45°C ให้ความรู้สึกผ่อนคลายแต่ยังกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตภายในให้กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
breo รุ่น massagun9
ปืนนวดระดับโปร เหมาะสำหรับนักกีฬา ผู้ที่ออกกำลังกาย มีกล้ามเนื้อแน่นแข็งเป็นพิเศษ ด้วยด้ามจับโค้งเลข 9 มีซิลิโคนแบบกันลื่น ออกแบบตามสรีรศาสตร์ ให้จับกระชับ เข้าถึงสะบัก และหลังได้ง่าย ให้คุณลงน้ำหนักในการนวดได้สะดวกยิ่งขึ้น บรรเทาอาการปวดตึงของกล้ามเนื้อ เร่งการสลายตัวของกรดแลคติกสลายพังผืดอย่างรวดเร็ว เพราะมีแรงนวดลึกถึง 12 มม. ปรับความแรงได้ถึง 4 ระดับ พร้อมกับ 6 หัวนวดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการนวดตามจุดต่างๆได้อย่างตรงจุด เพิ่มความผ่อนคลายให้กล้ามเนื้อ ด้วยหัวนวดประคบอุ่น อุณหภูมิคงที่ 45°C ให้ความรู้สึกเหมือนการกดด้วยฝ่ามือ เพิ่มการไหลเวียนโลหิต และลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ
บทสรุป
การนวดไม่ใช่เพียงกิจกรรมเพื่อความสบายชั่วคราวแต่ยังเป็นการดูแลสุขภาพที่มีประสิทธิภาพทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ การเลือกประเภทของการนวดที่เหมาะสมกับตนเองจะช่วยให้เกิดประโยชน์สูงสุด ดังนั้น การนวดจึงถือเป็นส่วนสำคัญหนึ่งในวิธีการดูแลตนเองที่ง่าย ปลอดภัย และให้ผลดีทั้งในระยะสั้นและระยะยาว