คุณนั่งทำงานวันละกี่ชั่วโมง? แล้วเคยนับไหมว่านั่งผิดท่ามากี่ปีแล้ว
ในยุคที่ “งานส่วนใหญ่” ต้องทำหน้าคอมพิวเตอร์ การนั่งทำงานนาน 6–10 ชั่วโมงต่อวันกลายเป็นเรื่องปกติของคนทำงานออฟฟิศ โดยเฉพาะเมื่อเราหมกมุ่นกับงานจนลืมว่า “ท่านั่ง” ที่ไม่ถูกต้อง กำลังค่อย ๆ สะสมแรงกดอันมหาศาลลงสู่กระดูกสันหลังของเราในทุกวัน
งานวิจัยจาก Harvard Health และ The American Chiropractic Association พบว่า มากกว่า 90% ของคนทำงานประจำ มีพฤติกรรมการนั่งทำงานที่ผิดท่า และนั่นเป็นต้นตอสำคัญของอาการปวดหลังเรื้อรังในวัยทำงานตอนปลาย รวมถึงปัญหาหมอนรองกระดูกเสื่อมในวัยกลางคนสาเหตุหลัก: นั่งผิดท่า นานเกินไป โดยไม่เคลื่อนไหว
❗ ลองสังเกตตัวเองดูว่า คุณเข้าข่ายหรือไม่
นั่งหลังค่อม หรือยื่นคอไปด้านหน้าขณะจ้องจอ
ก้มคอเกิน 45 องศาขณะดูมือถือ
ไม่พิงพนักเก้าอี้ ปล่อยให้กล้ามเนื้อหลังรับน้ำหนักเต็ม ๆ
นั่งแช่ในท่าเดิมนานกว่า 1 ชั่วโมง โดยไม่ลุกขยับ
ผลกระทบ: หมอนรองกระดูกเสื่อมโดยไม่รู้ตัว
🔎 สิ่งที่เกิดขึ้นในร่างกายเมื่อคุณนั่งผิดท่าเป็นประจำ
แรงกดทับเพิ่มขึ้น 40%: เมื่อนั่งก้มหลังหรือโน้มคอ ร่างกายจะถ่ายน้ำหนักจากกล้ามเนื้อ ไปยังกระดูกสันหลังโดยตรง
หมอนรองกระดูกบางลง: เจลภายในหมอนรองกระดูกจะถูกบีบจนแบนและแห้งลง สูญเสียความสามารถในการกันกระแทก
เกิดจุดอักเสบเรื้อรัง:กล้ามเนื้อหลังตึงสะสม เกิด Trigger Point ทำให้เจ็บลึกเฉพาะจุดแม้เวลานั่ง-นอนปกติ
วิธีรับมืออย่างถูกต้อง: ป้องกันก่อนพัง
✅ 1. ปรับพฤติกรรมการนั่งให้ถูกต้อง
นั่งหลังตรง พิงพนัก ให้แนวกระดูกสันหลังชิดพนักเก้าอี้
หน้าจออยู่ระดับสายตา ปรับจอไม่ให้ต้องก้ม
เข่างอ 90 องศา เท้าวางเต็มพื้น
ขยับเปลี่ยนท่าทุก 30–60 นาที เช่น ลุกเดิน หรือบิดตัวเล็กน้อย
✅ 2. เสริมความแข็งแรงกล้ามเนื้อหลังและแกนกลาง
ออกกำลังกายแบบ Low Impact เช่น ว่ายน้ำ หรือโยคะหลังเลิกงาน
ฝึกท่า Plank, Bird Dog, หรือ Bridge Pose
🟦 Plank (แพลงก์)
จุดประสงค์: เสริมความแข็งแรงของแกนกลางลำตัว, หลัง, หน้าท้อง และสะโพก
✅ วิธีฝึก:
เริ่มจากท่าวิดพื้น (push-up position)
งอข้อศอก 90 องศาแล้ววางปลายแขนลงพื้น ให้ข้อศอกอยู่ใต้หัวไหล่
ลำตัวตรงตลอดตั้งแต่ศีรษะถึงส้นเท้า อย่าให้หลังแอ่นหรือยกก้นขึ้น
เกร็งหน้าท้องและก้น ค้างไว้ 20–60 วินาที
ทำซ้ำ 2–3 เซตต่อวัน
⚠️ ข้อควรระวัง:
อย่าแอ่นหลัง เพราะจะเพิ่มแรงกดที่หลังส่วนล่าง
หากเริ่มฝึกใหม่ ๆ ให้เริ่มจาก 15–20 วินาทีก่อนแล้วค่อยเพิ่มเวลา
🟩 Bird Dog (เบิร์ดด็อก)
จุดประสงค์: ฝึกการทรงตัว เสริมกล้ามเนื้อหลังล่าง หน้าท้อง และสะโพก
✅ วิธีฝึก:
เริ่มจากท่า “คลาน 4 จุด” – มือใต้ไหล่ เข่าใต้สะโพก
ยื่นแขนขวาไปข้างหน้า และเหยียดขาซ้ายไปด้านหลังในแนวตรง
รักษาลำตัวให้นิ่งและขนานกับพื้น ไม่ให้สะโพกเอียง
ค้างไว้ 5–10 วินาที แล้วสลับข้าง
ทำซ้ำข้างละ 10–15 ครั้ง รวม 2–3 เซต
⚠️ ข้อควรระวัง:
อย่าให้หลังแอ่นหรือเอียงซ้าย-ขวาขณะยืดแขนขา
ฝึกหน้ากระจกเพื่อดูแนวสันหลังตรงขณะทำ
🟨 Bridge Pose (สะพานยกสะโพก)
จุดประสงค์: เสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อบั้นท้าย, หลังล่าง และเอ็นร้อยหวาย
✅ วิธีฝึก:
นอนหงาย ชันเข่าขึ้น 90 องศา เท้าชิดพื้น แขนวางข้างลำตัว
เกร็งหน้าท้องและก้น แล้วค่อย ๆ ยกสะโพกขึ้นจากพื้น
ยกจนเข่า-สะโพก-ไหล่อยู่ในแนวตรง
ค้างไว้ 10–15 วินาที แล้วลดสะโพกลงช้า ๆ
ทำซ้ำ 10–15 ครั้ง รวม 2–3 เซต
⚠️ ข้อควรระวัง:
อย่าแอ่นหลังมากเกินไป ให้ใช้แรงจากก้นและต้นขายกสะโพก
ไม่ควรกลั้นหายใจระหว่างทำ
💬 Tip สำหรับผู้เริ่มต้น
ฝึกวันเว้นวัน หรือ 3–4 ครั้ง/สัปดาห์
หากรู้สึกเจ็บหลังส่วนล่างขณะฝึก ควรหยุดทันทีและปรับท่า
ทำร่วมกับการใช้เครื่องนวดเพื่อคลายกล้ามเนื้อก่อนหรือหลังฝึก จะช่วยให้ยืดกล้ามเนื้อได้ดีขึ้น
✅ 3. ใช้เทคโนโลยีช่วยผ่อนคลายและยืดกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง
สำหรับคนที่เริ่มมีอาการปวดเมื่อยหลัง หรือรู้ตัวว่า “นั่งผิดท่ามานาน” การใช้เครื่องนวดและพยุงหลังเฉพาะทางช่วยลดแรงกดทับและยืดกล้ามเนื้ออย่างปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณ “หลังส่วนล่าง” ที่เป็นจุดเสี่ยงที่สุด
แนะนำ: breo Y2 เครื่องนวดและพยุงหลังระดับพรีเมียม
ไม่ใช่แค่เครื่องนวดทั่วไป แต่คือ “อุปกรณ์ดูแลกระดูกสันหลังแบบองค์รวม” ที่ออกแบบตามหลักกายภาพบำบัด ช่วย ลดแรงกดทับกระดูกสันหลังส่วนล่าง, ฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่ล้า, และ ปรับแนวกระดูกให้ถูกต้อง เหมาะกับผู้ที่ต้องนั่งทำงานนาน ๆ หรือมีปัญหาหลังจากพฤติกรรมเดิมซ้ำ ๆ ในชีวิตประจำวัน
ตอบโจทย์ลูกค้าอย่างไร?
สำหรับคนทำงานออฟฟิศ: ช่วยคลายความเมื่อยและฟื้นฟูหลังหลังเลิกงาน โดยไม่ต้องไปคลินิก
สำหรับผู้ที่มีอาการหลังตึงหรือปวดเรื้อรัง: ลดแรงกดและยืดกระดูกอย่างปลอดภัย ช่วยบรรเทาอาการโดยไม่พึ่งยา
สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลหลังเชิงป้องกัน: ปรับโครงสร้างหลังให้ถูกต้องก่อนจะเกิดปัญหารุนแรง
💡 ฟังก์ชันเด่น:
Dual Dynamic Air Stretch
ยืดกล้ามเนื้อพร้อมดันแนวกระดูกสันหลัง ด้วยระบบนวดถุงลมคู่ (Smart Airbag Massage) เป็นการทำงานแบบกระจายแรงดันอย่างแม่นยำ ยืดกล้ามเนื้อรอบบั้นเอว และ ค่อย ๆ ดันแนวกระดูกสันหลังจากด้านล่างขึ้นด้านบน โดยเลี่ยงจุดเปราะบางของกระดูก ให้กระดูกสันหลังส่วนเอว แผ่โค้งออก คล้ายการจัดกระดูกของแพทย์ (Chiropractor) ลดการกดทับเส้นประสาท บรรเทาอาการปวดหลังได้อย่างตรงจุด ค่อยๆปรับแนวกระดูกสันหลังให้ตรงอย่างเป็นธรรมชาติ
ผลลัพธ์:
ลดแรงกดที่ หมอนรองกระดูกส่วนล่าง (L4-L5 และ L5-S1)
คลายความตึงของกล้ามเนื้อหลังส่วนล่างที่ต้องรองรับน้ำหนักตัวตลอดวัน
ปรับสมดุลโครงสร้างหลังให้ใกล้เคียงสภาวะปกติ
Red Light Therapy (630 นาโนเมตร)
คลื่นแสงเฉพาะทาง 630 นาโนเมตร จำนวน 35 ดวง เป็นช่วงความยาวคลื่นที่เหมาะสมต่อการบำบัดในระดับเซลล์แทรกซึมลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ 2 ซม. กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ช่วยขจัดกรดแลคติคและของเสียที่สะสม ต้นเหตุของอาการบวม ตึง และก้อนแข็งเรื้อรัง
ผลลัพธ์:
ลดอาการอักเสบและบวมในเนื้อเยื่อ
ขจัด กรดแลคติค และของเสียจากการเกร็งกล้ามเนื้อสะสม
ฟื้นฟูความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลัง
High-Frequency Vibration Motor
คือเทคโนโลยีการนวดที่ใช้การ สั่นสะเทือนด้วยความถี่สูงระดับลึก เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อในระดับแกนกลาง (Deep Core Muscle) ที่มักเป็นต้นเหตุของอาการปวดหลัง–เอว โดยเฉพาะ กล้ามเนื้อ “พีโซอัส” (Psoas Muscle) เป็นกล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณ กระดูกสันหลังส่วนล่าง เชื่อมถึงกระดูกเชิงกรานและต้นขาซึ่งเป็นจุดที่มักถูกมองข้าม และยากจะเข้าถึงด้วยการนวดทั่วไป ซึ่งหากตึงหรือเกร็งเรื้อรัง จะทำให้เกิด อาการปวดหลัง ปวดสะโพก และแนวกระดูกสันหลังผิดรูป แต่การนวดทั่วไปหรือแผ่นแปะร้อนมัก ไม่สามารถเข้าถึงกล้ามเนื้อพีโซอัสได้ลึกพอ breo Y2 จึงเลือกใช้เทคโนโลยี High-Frequency Vibration Motor ที่ยกระดับจากระบบกระตุ้นไฟฟ้าแบบเดิม (Pulse Current) สู่การนวดแบบ สั่นสะเทือนความถี่สูง ซึ่งให้สัมผัส นุ่มลึกกว่าสามารถเข้าถึงกล้ามเนื้อแกนลึกได้อย่างแม่นยำ
ผลลัพธ์:
ลดอาการปวดตึงลึกและความเมื่อยสะสม
เพิ่มความยืดหยุ่นและการเคลื่อนไหวของหลัง
ทำให้รู้สึกผ่อนคลายเหมือนการนวดโดยนักกายภาพ
ทำไมต้องใช้หลังเลิกงานหรือก่อนนอน?
ช่วงหลังเลิกงาน: ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ตึงจากการนั่งทำงานทั้งวัน
ก่อนนอน: ลดแรงกดหลังและปรับสภาพร่างกายให้อยู่ในสภาวะผ่อนคลาย ทำให้นอนหลับสบายขึ้น
สรุป
อย่ารอให้ปวดจนต้องหาหมอ ก่อนเริ่มดูแลหลังของคุณ
ท่านั่งผิดท่าอาจดูเป็นเรื่องเล็ก แต่เมื่อเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ทุกวันเป็นเดือนหรือเป็นปี อาจนำไปสู่โรคเรื้อรังที่เปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดชีวิต
เริ่มดูแลวันนี้ ด้วยการปรับพฤติกรรมและเลือกอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อ “คนทำงาน” โดยเฉพาะ
เพราะ “หลัง” มีแค่หนึ่งเดียว และเป็นฐานของการใช้ชีวิตอย่างสมดุล